นิทาน : "ปีเตอร์อัปเดต"
ปีเตอร์หนุ่มชาวไทยผู้เป็นเว็บมาสเตอร์มือฉมัง แต่หัวใจรักสงบ ชอบอะไรที่เรียบง่ายไม่ต้องยุ่งยากนัก ส่วนภรรยาของเขา, คะน้า
สาวญี่ปุ่นดีกรีโปรแกรมเมอร์สมองเพชร ที่มีคติประจำใจว่า: “โลกนี้หมุนเร็วเกินกว่าจะใช้โค้ดเดิมซ้ำๆ!”
ทั้งสองสร้างบริษัทร่วมกันเกี่ยวกับเว็บไซต์ค้าขาย ซึ่งมักจะเป็นสนามประลองความรู้ใหม่ๆ ที่ คะน้า พยายามอัปเดตใส่หัวปีเตอร์ทุกเช้าก่อนจิบกาแฟ
วันหนึ่ง...
ปีเตอร์กำลังง่วนอยู่กับการดูแลเซิร์ฟเวอร์เก่าแก่ที่ยังคงใช้เทคโนโลยีเมื่อห้าปีก่อน (เพราะเขาว่า 'มันเสถียรดี')... คะน้าก็เดินเข้ามาพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มแบบที่ปีเตอร์รู้ดีว่า 'ต้องมีเรื่องหนักใจแน่ๆ'
"ปีเตอร์ซังงง... ที่รัก" คะน้าลากเสียงหวาน "คุณยังใช้ CSS เวอร์ชั่นเก่าเพื่อจัดเลย์เอาต์หน้าเว็บเราอยู่อีกเหรอคะ?"
ปีเตอร์เงยหน้าจากหน้าจอ มองคะน้าอย่างอ่อนใจ "คะน้าจัง... ผมใช้มาห้าปีแล้ว มันก็ยังสวยงามดุจสาวแรกรุ่น ลูกค้าก็ไม่เคยบ่นสักคน"
"ไม่ได้แล้วค่ะ! โลกนี้ก้าวสู่ยุค Web 3.0, Metaverse, และ Quantum Computing แล้วนะ! ถ้าคุณไม่เปลี่ยนไปใช้ 'Fluid Responsive Design' ที่ใช้ 'Flexbox' ผสม 'Grid Layout' ลูกค้าจะเข้าเว็บจากนาฬิกาอัจฉริยะไม่ได้นะคะ!" คะน้าทำเสียงดุเล็กน้อย
ปีเตอร์ลูบหน้าตัวเอง "โอ๊ย... แค่จัดเรียงรูปสินค้าเองนะ ผมทำแบบเก่ามันก็เรียงสวยเหมือนเดิม แถมโหลดเร็วกว่าด้วยซ้ำ ไม่ต้องมานั่งคิดเรื่อง 'Fluid' หรือ 'Grid' อะไรให้ปวดหัว แค่จัดให้อยู่ในกรอบก็พอแล้ว"
คะน้าถอนหายใจยาว "ไม่พอค่ะ! ตอนนี้เทรนด์ใหม่มาแรงคือ 'AI-Driven Hyper-Personalization' ค่ะ! เว็บเราต้องรู้ว่าลูกค้าคนนี้เคยซื้ออะไร เคยกดดูอะไร และคาดเดาว่าลูกค้าคนถัดไปอยากจะซื้ออะไร ก่อนที่เขาจะรู้ตัวด้วยซ้ำ!"
ปีเตอร์ตาโตขึ้น "ห๊ะ? คาดเดาความอยากของลูกค้า? คะน้าจัง... ผมว่าเราขายแค่ปลาทูแห้งกับน้ำพริกนรกเองนะ จะต้องใช้ AI ที่เรียนรู้ถึงจิตวิญญาณของลูกค้าไปทำไม? ให้ลูกค้าคลิกสั่งซื้อเองไม่ดีกว่าเหรอ?"
คะน้าไม่ฟัง เธอคว้าแล็ปท็อปมาเปิดหน้า 'Google Trends' อย่างรวดเร็ว
"ดูนี่ค่ะ ปีเตอร์! วันนี้มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่นมาแล้ว มันคือ 'Emotional Web Design' ค่ะ!"
ปีเตอร์ทำหน้าเหมือนเจอผี "อะไรอีกครับคะน้าจัง?"
"คือ... เมื่อลูกค้าเข้าเว็บเราแล้ว ไม่ว่าเขาจะสุข เศร้า เหงา หรือโกรธ เว็บไซต์ของเราจะเปลี่ยนสี เปลี่ยนฟอนต์ และปรับโปรโมชั่นให้เข้ากับอารมณ์ของเขาโดยอัตโนมัติ! เช่น ถ้าลูกค้าเศร้า เว็บจะเปลี่ยนเป็นสีพาสเทลอ่อนๆ พร้อมเสนอส่วนลดพิเศษเพื่อเยียวยาจิตใจค่ะ!"
ปีเตอร์มองหน้าคะน้าด้วยความสยองขวัญ "นี่มันไม่ใช่เว็บไซต์ค้าขายแล้วนะ มันคือ นักจิตบำบัดทางอินเทอร์เน็ต! แล้วถ้าลูกค้าโกรธล่ะครับ? เว็บเราจะเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมตะโกนด่าลูกค้าเหรอ?"
คะน้าทำท่าคิด "นั่นเป็นแนวคิดที่น่าสนใจนะคะ... แต่เบื้องต้น ถ้าลูกค้าโกรธ เว็บเราจะเปลี่ยนไปเป็นหน้าจอสีขาวล้วนๆ พร้อมข้อความว่า 'กรุณาสูดหายใจลึกๆ 3 ครั้ง แล้วกลับมาเลือกซื้อน้ำพริกใน 1 นาทีค่ะ'"
ปีเตอร์ถึงกับยกมือยอมแพ้ "โอเคๆ ผมยอมแล้ว! พรุ่งนี้ผมจะอัปเกรดเซิร์ฟเวอร์... แต่ผมขออย่างเดียว... ขอให้เว็บไซต์เรามีปุ่ม 'ย้อนกลับไปใช้ดีไซน์แบบปี 2015' เผื่อไว้ให้ผมคนเดียวได้ไหม? แค่นั่งดูเมนูที่เรียงเป็นระเบียบตามตารางแล้วมันรู้สึกสงบใจมากกว่าเยอะเลยนะ!"
คะน้าก้มลงจุ๊บแก้มสามีเบาๆ "ไม่ได้หรอกค่ะที่รัก... เพราะปุ่มนั้นจะถูกลบออกด้วย 'Automated Legacy Code Cleanup Script v.2026' ที่ฉันเพิ่งเขียนเสร็จเมื่อกี้แล้วล่ะค่ะ! ไปค่ะ! มาเริ่มเรียนรู้เรื่อง 'Blockchain-Integrated E-commerce' กันต่อเลยนะคะ!"
ปีเตอร์ทรุดตัวลงกับเก้าอี้พลางพึมพำกับตัวเอง: "ชีวิตเว็บมาสเตอร์ที่แต่งงานกับโปรแกรมเมอร์นี่มันช่าง 'อัปเดต' ไม่จบไม่สิ้นจริงๆ..."